สำหรับ THG เองได้มีความพยายามปรับตัวให้สอดรับตามปัจจัยดังกล่าวมาตลอด และหลายส่วนที่ได้ทำ"ล่วงหน้า" ก็เริ่มปรากฎผลลัพธ์ชัดเจนในเชิงบวกมากขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนที่ 1 : Innovation & Technology ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่คนไข้และผู้ใช้บริการ ปัจจุบัน THG ทำการเปิดเชื่อมต่อระบบนัดหมาย ระบบรายงานผลการตรวจร่างกาย ทั้งยา ผล X-rays และผลการตรวจเลือดผ่านโมบายล์แอปพลิเคชันในกลุ่มโรงพยาบาลเครือข่าย อาทิ (1) THG Live ที่รวมข้อมูลการรักษา แพ็กเกจสุขภาพ และการนัดหมายแพทย์ของโรงพยาบาลในเครือ THG ทั่วประเทศ (2) MEDIO พัฒนาโดยโรงพยาบาลราษฎร์ยินดีหาดใหญ่ สามารถเช็คประวัติและตรวจสอบสิทธิการเบิกค่ารักษาพยาบาล (3) Prompt Care สำหรับให้บริการสุขภาพครบวงจรโดยแพทย์เฉพาะทางกว่า 20 สาขา เป็นต้น และยังอยู่ระหว่างการพัฒนาฟังก์ชั่นการทำงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้นหากเข้มงวดบนเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล สอดรับตามทิศทางดำเนินงานของ THG ที่มุ่งเน้นความสำคัญกับเรื่อง Cyber security และ Business continuity โดยจัดตั้งทีมออดิทเพื่อตรวจสอบและประเมินทุกโรงพยาบาลในเครืออย่างเข้มงวด

พร้อมกันนี้ได้ทำการปรับระบบ HIS (Hospital Information Systems) เครื่องมือการจัดการฐานข้อมูลสารสนเทศขนาดใหญ่ของโรงพยาบาลจากที่เป็น client-server มาเป็น web-based เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเก็บและวิเคราะห์ ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ทั้งกำหนดให้โรงพยาบาลธนบุรีเป็น flagship ในการนำ AI และ Robot ด้านการแพทย์เข้ามาให้บริการและปฏิบัติงาน อาทิ หุ่นยนต์ฝึกเดิน หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดข้อเข่า ข้อสะโพก ผ่าตัดมะเร็ง ผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ

ส่วนที่ 2: Human Resource มีการจัดโครงสร้างการทำงานและแนวทางการพัฒนาศักยภาพให้มีความเข้าใจทักษะด้านบริการสุขภาพทั้งระบบโดยเฉพะด้านดิจิทัลและไอที นำบุคลากรทุกสายงาน อาทิ แพทย์ พยาบาล นักการตลาด นักบัญชี ฯลฯ มาจัดกิจกรรมรูปแบu mixed skill teamwork ร่วมกัน เช่น "โครงการหลงจู๊ Next" "โครงการพญาหลงจู๊" และ "โครงการหลงจู๊ เผื่อโลกใบใหม่...ยั่งยืน" เพื่อให้เกิดการความรู้ ความเข้าใจในการพัฒนาระบบปฏิบัติการที่สอดคล้องระหว่างกัน รวมถึงโครงการ "THG 7 Standards" ที่เป็นการนำบุคลากรหลากสาขาในเครือ TH& ทั่วประเทศ เดินทางไปเยี่ยมทุกโรงพยาบาลในเครือ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกัน 7 ด้าน อาทิ Clinical Quality Standards, Digital Transformation and Cybersecurity standards, Branding and Marketing standards ฯลฯ เป็นการร่วมสร้างมาตรฐานใหม่ให้องค์กร รวมถึงมีการรวบรวมกลุ่มบุคลากรด้านดิจิทัลเทคโนโลยีของเครือ THG มาผนึกกำลังกัน ในรูปแบบ matrix organization เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการพัฒนาโปรเจคท์ใหม่ๆที่สอดรับกับวิถีวัฒนธรรมใหม่ๆ

หลักใหญ่ใจความสำคัญ คือ ในปี 2566 และ 2567 จะเป็นปีที่ THG มุ่งให้พนักงานทุกระดับได้รับความรู้เพื่อรองรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ไม่หยุดนิ่ง และสามารถประเมินตนเองในด้าน digital literacy เพื่อความมั่นคงและปลอดภัยทางไซเบอร์ขององค์กร

สิ่งต่างๆ เหล่านี้ THG หวังว่าจะช่วยยกระดับองค์กรสู่การเป็น Company of choices ที่ดึงดูดบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีความสามารถทั้งสายงานด้านแพทย์ พยาบาล สายงานด้านดิจิทัลเทคโนโลยี หรือ กลุ่มเทคสตาร์ทอัพ ให้สนใจเข้ามาทำงานในธุรกิจเฮลท์แคร์มากยิ่งขึ้นในอนาคต

ส่วนที่ 3: แข็งแกร่งในน่านน้ำใหม่ นอกเหนือจากการลงทุนในประเทศที่ THG มีจุดแข็งครอบคลุมธุรกิจโรงพยาบาลและบริการด้านการแพทย์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว การออกสู่น่านน้ำใหม่ คือ กุญแจหนึ่งในการปรับตัว ในปีที่ผ่านมา THG ร่วมกับ IFF Holding เข้าไปลงทุนด้าน wellness ในโครงการ BeWell Health and Wellness Clinic ศูนย์บริการตรวจสุขภาพเชิงลึกเฉพาะบุคคลในนครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ธุรกิจนำร่องที่พร้อมให้บริการกลางปี 2567 โดยมีเป้าหมายขยายสาขาเพิ่มอีกสองเมืองคือ ดานังและโฮทรัม ซึ่งจะการปทางธุรกิจด้านนี้ให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต

โดยสรุปภาพรวมผลประกอบการในปีที่ผ่านมา THG ยังคงเดินหน้าและเติบโตภายใต้กรอบเป้าหมาที่กำหนดไว้มีการกำกับดูแลควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ขณะเดียวกันปี 2566 ก็ถือเป็นปีที่ THG มีการลงทุนเพื่อสนับสนุนการขยายกิจการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งหากเปิดให้บริการโครงการต่างๆได้ตามแผนก็จะช่วยส่งผลต่อการเติบโตที่มั่นคงยั่งยืนในอนาคตต่อไป

ขอขอบคุณผู้บริหาร นักงาน รวมถึงภาคีเครือข่าย พันธมิตรต่าง ๆ ที่ร่วมผนึกกำลังการทำงาน การออกสู่น่านน้ำใหม่ หมายถึงงานหนัก แต่การวางแผนและเตรียมตัวที่ดี ย่อมทำให้เป้าหมายชัดเจน อุปสรรคกลายเป็นความท้าทายที่ไม่เกินความสามารถ ทุกท่านเป็นผู้ร่วมไขกุญแจสำคัญที่ทำให้ THG ออกสู่น่านน้ำใหม่ด้วยความแข็งแกร่ง