THG พร้อมโอนห้องชุด JIN WELLBEING COUNTY เฟสแรก จัดแคมเปญใหญ่กระตุ้นยอดขายโค้งสุดท้าย ตุนแบ็กล็อกในมือ 153 ยูนิต มั่นใจมาตรการคุมเงินดาวน์ไม่กระทบ

บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือ THG เดินหน้าส่งมอบห้องชุดโครงการ Jin Wellbeing County ส่วน Active Living เฟสแรก พร้อมจัดแคมเปญถึง 31 ธันวาคมนี้ ชูแพ็กเกจ 5 ทางเลือกกระตุ้นยอดขายช่วงโค้งสุดท้าย โชว์แบ็กล็อกห้องชุดในมือ 153 ยูนิต หวังเริ่มโอนกรรมสิทธิ์บางส่วนเพื่อรับรู้รายได้ก่อนสิ้นปีนี้ มั่นใจมาตรการควบคุมเงินดาวน์ของแบงก์ชาติไม่กระทบ เพราะจับกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์และบางส่วนพร้อมโอนด้วยเงินสด

นพ. ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ผู้นำธุรกิจดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรและบริการที่มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ภายใต้แนวคิด ‘ปกป้องดูแลความสุขและสุขภาพคนไทยทุกช่วงชีวิต’ (Lifetime Health Guardian For All) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ

Jin Wellbeing County (จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้) ภายใต้คอนเซปต์เมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณว่า ปัจจุบันเริ่มทยอยนัดหมายลูกค้าที่จองซื้อห้องชุดพักอาศัยระดับพรีเมียมในส่วน Active Living เฟสแรกภายในโครงการเข้ามาตรวจรับห้องชุดเพื่อโอนกรรมสิทธิ์ โดยบริษัทฯ ได้จัดแคมเปญใหญ่ The Golden Spirit Experience ถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ให้ลูกค้าเลือกรับแพ็กเก็จอย่างใดอย่างหนึ่งจากทั้งหมด 5 แพ็กเก็จ มูลค่าสูงสุดกว่า 2.4 – 3.5 แสนบาท

ได้แก่ แพ็กเกจกระเป๋าตุง ให้เลือกใช้บริการไลฟ์สไตล์ในโครงการมูลค่ากว่า 3.5 แสนบาท แพ็กเกจสุขภาพดี รับฟรีแพ็กเกจตรวจสุขภาพประจำปี ค่าสมาชิกสถาบันจิณณ์ เวลเนส 2 ปี พร้อมบัตรกำนัลใช้บริการ รพ.ธนบุรีบูรณาและสถาบันจิณณ์ เวลเนส มูลค่ากว่า 2.7 แสนบาท แพ็กเกจฟรีเฟอร์นิเจอร์ ฟรีบัตรกำนัลมูลค่ากว่า 3.5 แสนบาท แพ็กเกจพร้อมอยู่ ฟรีค่าโอน ค่าส่วนกลาง 3 ปีแรก และค่าบริการ 1.8 หมื่นบาทต่อคนต่อปี 4 ใบ มูลค่ากว่า 2.4 แสนบาท และแพ็กเกจส่วนลดค่าห้อง มูลค่ากว่า 3 แสนบาท เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ

ทั้งนี้ โครงการ Jin Wellbeing County ในส่วนห้องชุดพักอาศัย Active Living เฟสแรก เป็นอาคาร 7 ชั้น ในคลัสเตอร์ 1 – 2 มีจำนวน 5 อาคาร รวม 494 ยูนิต แบบ 1 – 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 43-46 ตารางเมตร และ

63-66 ตารางเมตร ราคาขายยูนิตละ 4 – 6 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขาย (พรีเซล) แล้ว 153 ยูนิต รวมมูลค่ากว่า 760 ล้านบาท หรือเฉลี่ยยูนิตละ 5 ล้านบาท และมียอดจองห้องชุดที่อยู่ระหว่างรอทำสัญญาจะซื้อจะขายอีก 20 ยูนิต โดยพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อไว้เป็นที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 - 3 เพื่อพักผ่อนหรือใช้ชีวิตในวัยเกษียณ

“เรามั่นใจว่าโครงการจะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เตรียมบังคับใช้ในเดือนเมษายน 2562 ซึ่งจะส่งผลให้ผู้กู้ซื้อที่อยู่อาศัยตั้งแต่หลังที่ 2 ขึ้นไป ต้องมีเงินผ่อนดาวน์เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน เนื่องจากลูกค้าของเราเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ที่ซื้อไว้เพื่ออยู่อาศัยเองเป็นหลัก และมีลูกค้าบางรายที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ด้วยเงินสดโดยไม่ขอสินเชื่อจากธนาคาร” นพ. ธนาธิป กล่าว

นพ. ธนาธิป กล่าวว่า ในปี 2562 คาดว่าอัตราการขายห้องชุดในโครงการจะปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่ห้องชุดเฟสแรกก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มมีลูกค้าเข้าอยู่อาศัยในโครงการ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เลือกซื้อห้องชุดเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 – 3 ส่วนหนึ่งจะตัดสินใจซื้อเมื่อห้องชุดก่อสร้างแล้วเสร็จ เพื่อให้เห็นบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในโครงการ ซึ่งจะแตกต่างจากผู้ซื้อคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือวัยทำงานที่ต้องการระยะเวลาผ่อนดาวน์

ดังนั้นโครงการ Jin Wellbeing County จึงถูกพัฒนาภายใต้คอนเซปต์เมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณ เพื่อเป็นโครงการ Wellness-Mix Use แห่งแรกในเอเชียที่ชูแนวคิดการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการ โดยเน้นจุดขายเป็นที่พัก ให้ความรู้สึก Resort สำหรับผู้สูงอายุหรือคนโสดที่วางแผนเข้าสู่วัยเกษียณ มีพื้นที่สีเขียวภายในโครงการกว่า 50% และมีเทคโนโลยีดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้อยู่อาศัยในโครงการ ซึ่งหลังจากที่เริ่มโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดแล้ว จะมีกิจกรรมดูแลรักษาสุขภาพต่างๆ ให้แก่ผู้อยู่อาศัย อาทิ กิจกรรมดนตรีบำบัด ศิลปะบำบัด สมาธิบำบัด ฯลฯ

นอกจากนี้ โครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ‘สถาบันจิณณ์ เวลเนส’ เพื่อการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการอย่างครบวงจรและโรงพยาบาลฟื้นฟูสุขภาพ ‘ธนบุรีบูรณา’ ภายใต้แนวคิด Total Wellness Solutions เพื่อให้บริการและรองรับไลฟ์สไตล์ให้แก่ผู้อยู่อาศัย คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จในไตรมาส 1 - 2 ปี 2562