THG ดัน Q3 ทำกำไรสุทธิ 104 ล้าน เติบโตจากไตรมาสก่อน 45% รับไฮซีซั่นธุรกิจโรงพยาบาลหนุนปริมาณผู้ป่วยเข้าใช้บริการเพิ่ม

บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือ THG โชว์ไตรมาส 3/61 ทำกำไรสุทธิ 104 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า 45% และมีรายได้รวม 1,854 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า 11% เช่นเดียวกัน รับปัจจัยธุรกิจโรงพยาบาลในประเทศขยายตัวได้ดีจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจช่วยหนุนปริมาณผู้ป่วยเพิ่มขึ้น และการขยายศูนย์ตรวจรักษาและเสริมทีมแพทย์เฉพาะทาง พร้อมเดินหน้าเจรจาเข้ารับบริหารโรงพยาบาลเพิ่มเติมและเตรียมความพร้อมเปิดให้บริการโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ส่วนโครงการ Jin Wellbeing County มียอดขายห้องพักอาศัย active living แล้ว 168 ยูนิต

นพ. ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ผู้นำธุรกิจดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรและบริการที่มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ภายใต้แนวคิด ‘ปกป้องดูแลความสุขและสุขภาพคนไทยทุกช่วงชีวิต’ (Lifetime Health Guardian For All) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/61 (กรกฎาคม-กันยายน 2561) มีกำไรสุทธิ 104 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% จากไตรมาสก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 72 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1,854 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 1,675 ล้านบาท

ปัจจัยมาจากการดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลภายในประเทศ ที่เป็นรายได้หลักของบริษัทฯ มีการเติบโตที่ดี หลังจากขยายศูนย์ตรวจรักษาและเสริมทีมแพทย์เฉพาะทางไว้รองรับ ส่งผลให้ทางโรงพยาบาลสามารถให้บริการแก่ผู้ป่วยที่มาเข้ารับการรักษาได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยเกื้อหนุนจากการเข้าสู่ไฮซีซั่นของธุรกิจในช่วงไตรมาสที่ 3 จึงทำให้มีปริมาณผู้ป่วยและรายได้จากการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบไตรมาส 3/61 กับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้รวมยังเติบโตได้ดี แต่กำไรชะลอตัวเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานโครงการใหม่ ทั้งการก่อสร้างและตกแต่งโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง โครงการ Jin Wellbeing County และโครงการ Thonburi Health Village รวมถึงผลการดำเนินงานของโรงพยาบาล Ar Yu International Hospital ในเมียนมาที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนกันยายนปีนี้ และโรงพยาบาล Welly Hospital ในจีนที่เปิดให้บริการเมื่อปีที่ผ่านมา

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน 2561) บริษัทฯ มีรายได้รวม 5,211 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,874 ล้านบาท แม้ว่ากำไรสุทธิทำได้ 337 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 401 ล้านบาท เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานก่อสร้างโครงการใหม่ รวมถึงผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลในต่างประเทศทั้ง 2 แห่ง ที่ยังต้องอาศัยระยะเวลาดำเนินงานเพื่อให้โรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งถึงจุดคุ้มทุน

นพ.ธนาธิป กล่าวว่า นอกเหนือจากการดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการในต่างประเทศ เพื่อขยายธุรกิจเข้ารับบริหารโรงพยาบาลและให้คำปรึกษาในการพัฒนาโครงการแห่งใหม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีหน้า หลังจากเดือนตุลาคมที่ผ่านมาได้บรรลุข้อตกลงการเข้ารับบริหารโรงพยาบาล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ World Trade Center ในเมืองเวียงจันทน์ สปป.ลาว ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง

ขณะเดียวกันบริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเปิดบริการ รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง บนถนนบำรุงเมือง เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ในการดูแลรักษาสุขภาพให้แก่คนไทยที่พักอาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงและชาวต่างชาติ ที่ต้องการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัย ส่วนความคืบหน้าโครงการ Jin Wellbeing County บนเนื้อที่ 140 ไร่ในย่านรังสิต ซึ่งที่อยู่อาศัยต้นแบบเพื่อคนวัยเกษียณ ราคาขายเริ่มต้นยูนิตละ 4 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขาย active living แล้วประมาณ 168 ยูนิต นอกจากนี้ การเข้าลงทุนซื้อหุ้นโรงพยาบาลธนบุรีทุ่งสง ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อย โดยมีหุ้นรวมทั้งสิ้นร้อยละ 56.43