THG ผลงานไตรมาส 3/2563 เริ่มฟื้นตัว ทำรายได้เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสก่อนหน้า รับปริมาณคนไข้เพิ่มขึ้น ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี

บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือ THG เริ่มฟื้นตัว ทำรายได้ไตรมาส 3/2563 รวม 1,913 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสก่อนหน้าและกลับมามีกำไรสุทธิ (ส่วนของบริษัทใหญ่) 75 ล้านบาท หลังปริมาณคนไข้ในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น รวมถึงควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ดี พร้อมปรับกลยุทธ์ รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง ดึงดูดคนไข้ชาวไทย และเตรียมความพร้อมรับคนไข้ต่างชาติ

นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ผู้นำธุรกิจดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรและบริการที่มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ภายใต้แนวคิด ‘ดูแลคุณในทุกช่วงชีวิต’ (Lifetime Health Guardian For All) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 โดยมีรายได้รวม 1,913 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 1,580 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ (ส่วนของบริษัทใหญ่) อยู่ที่ 75 ล้านบาท ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีผลการดำเนินงานขาดทุน

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 ฟื้นตัวจากช่วงไตรมาส 2 ซึ่งคาดว่าเป็นจุดต่ำสุดจากผลกระทบของสถานการณ์ COVID-19 การปรับตัวที่ดีขึ้นนี้มาจากปริมาณคนไข้ในและคนไข้นอกที่เพิ่มขึ้นในโรงพยาบาลหลักและค่าใช้จ่ายด้านการบริการและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ลดลง โดยเฉพาะโรงพยาบาลธนบุรีซึ่งเป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ (Tertiary care) รองรับการรักษาโรคที่มีความซับซ้อน มีคนไข้กลับเข้ามารับบริการมากขึ้น หลังจากสถานการณ์โรค COVID-19 ภายในประเทศคลี่คลาย นอกจากนี้ โรงพยาบาลในเครือทั้งหมดยังจัดทำมาตรการรักษาความสะอาดและควบคุมการระบาดของโรคภายในโรงพยาบาลเพื่อเพิ่มความมั่นใจผู้ใช้บริการ ส่วนโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ซึ่งมีบริการระดับพรีเมียมและศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้วยเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย เช่น ศูนย์ทันตกรรมดิจิทัล ศูนย์บริการตรวจสุขภาพแบบครบวงจร ศูนย์รักษาแผลโรคเบาหวาน ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก ได้ขยายตลาดดึงดูดผู้ใช้บริการชาวไทยและเริ่มมีชาวต่างชาติบางส่วนเข้ามารักษาพยาบาลในประเทศไทยเพิ่มตามมาตรการของรัฐบาล

ขณะที่การดำเนินงานของโรงพยาบาลในต่างจังหวัด เริ่มฟื้นตัวเป็นลำดับเช่นกัน ตัวอย่างเช่น รพ.ธนบุรี ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เริ่มมีแนวโน้มความสามารถในการทำกำไรดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนถึงความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการในภูมิภาค ส่วน รพ.ราษฎร์ยินดี จ.สงขลา รพ.อุบลรักษ์ ธนบุรี และ รพ.สิริเวช จันทบุรี ยังมีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับที่ดีและสามารถสร้างผลกำไรให้แก่บริษัทฯ นอกจากนี้การดำเนินงานของ Ar Yu International Hospital ในประเทศเมียนมา (บริษัทถือหุ้น 40%) มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากได้จัดทำมาตรการดูแลคนไข้ ตรวจคัดกรองและดูแลรักษาความสะอาดอย่างเข้มงวด ในภาวะที่เมียนมาพบการระบาดของ COVID-19 อีกครั้ง รวมถึงเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในเมืองย่างกุ้ง ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการเข้าใช้บริการ

“หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 บริษัทฯ ได้เน้นการปรับตัว เพื่อตอบรับกับสถานการณ์ ตัวอย่างเช่น ควบคุมค่าใช้จ่ายในองค์กรให้สอดคล้องกับทิศทางรายได้ และปรับกลยุทธ์การทำกิจกรรมการตลาดของ รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากคนไข้ชาวไทย ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างขยายการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาวยังคงเดินหน้าตามแผนงาน อย่างเช่นโครงการปรับปรุงพื้นที่รองรับการขยายความสามารถในการให้บริการ เช่นที่ รพ.ธนบุรี รพ.ธนบุรี 2 รพ.สิริเวช ยังดำเนินต่อไป ส่วนการลงทุนโครงการใหม่ก็พิจารณาอย่างรัดกุมเพื่อการบริหารการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ” นายแพทย์ธนาธิป กล่าว